กู้ยืมเงินแต่ไม่มีสัญญากู้ ฟ้องคดีได้หรือไม่ ?

        การกู้ยืมเงิน ย่อมบริบูรณ์ได้เมื่อมีการเสนอ สนอง ถูกต้องตรงกันของคู่สัญญาและมีการส่งมอบเงินที่กู้ยืม นอกจากนี้เมื่อสัญญากู้ยืมเงินถือเป็นนิติกรรมสัญญารูปแบบหนึ่งจึงต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายเรื่องความสมบูรณ์ของนิติกรรมด้วย เช่น ต้องไม่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นต้น

ไม่มีสัญญากู้ก็ฟ้องคดีได้ ถ้ามีหลักฐานดังต่อไปนี้

        ในยุคปัจจุบันที่มีการกู้ยืมเงินกันผ่านทางแชทข้อความแอปพลิเคชันต่างๆทั้ง Facebook , Line  ฯลฯ โดยแชทหรือข้อความดังกล่าว หากมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือ

• แชทหรือข้อความนั้นต้องมีข้อความซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่ามีการกู้ยืมเงินกัน หรือมีข้อความทำนองว่ามีการรับเงินไปและรับว่าจะนำเงินนั้นมาใช้คืนให้ หรือมีข้อความใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้กู้ตกลงยอมรับว่ามีหนี้อันจะพึงชำระคืนให้แก่ผู้ให้กู้  ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า “กู้ยืม” ปรากฏชัดเจนก็ได้
   
• ปรากฏจำนวนเงินที่กู้ยืม
   
• ปรากฏบัญชีผู้ใช้โดยชัดเจนว่าใครเป็นผู้มาขอกู้ยืมเงิน 
  โดยบัญชีผู้ใช้ของผู้กู้ยืมเงิน(account)ในแชทและข้อความนั้นจะต้องสามารถระบุชื่อบัญชีผู้ใช้ของผู้กู้ยืมได้ โดยเป็นข้อมูลชื่อบัญชีผู้ใช้ที่มีระบบปลอดภัยและเชื่อถือได้ กล่าวคือควรเป็นโปรแกรมแชทของแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบการมีตัวตนจริงของผู้กู้ได้
   
• มีหลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปการโอน , รายการเดินบัญชีของธนาคาร ฯลฯ ที่มีรายละเอียดข้อมูลการโอนโดยปรากฎวันเวลาและจำนวนเงินที่กู้ยืมซึ่งสอดคล้องกับแชทข้อความการขอกู้ยืมเงิน
   
  หากแชทหรือข้อความมีลักษณะตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็อาจถือได้ว่าเป็นหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเทียบเท่ากับหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน นั่นเอง        

        ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าแม้ไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นหนังสือ แต่การกู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาทที่มีหลักฐานแห่งการฟ้องครบหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเพื่อฟ้องร้องคดีได้เช่นกัน

        คำแนะนำเพิ่มเติม : การตกลงยืมเงินในแชททุกครั้ง ผู้ให้กู้ควรสรุปรายละเอียดการกู้ยืมในแชทให้ชัดเจน และครอบคลุมถึงเงื่อนไขสำคัญต่างๆ เช่นชื่อ สกุล ของผู้กู้ ,จำนวนเงินที่กู้ ,กำหนดชำระเงินคืน ,อัตราดอกเบี้ยที่ตกลงคิดกัน เป็นต้น เพื่อให้ผู้กู้อ่านทำความเข้าใจและตอบรับยินยอมตามเงื่อนไขนั้นกลับมาเป็นข้อความชัดเจนก่อนทำการโอนเงินที่ยืม ทั้งนี้เพื่อความรัดกุมของหลักฐานที่มากขึ้นและป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้เบื้องต้น นอกจากนี้ บัญชีที่รับโอนเงินควรเป็นบัญชีที่เป็นชื่อ- สกุลของผู้กู้ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานตามข้อความแชทนั้นโดยตรงเท่านั้น  
               
อ้างอิง
- ป.พ.พ มาตรา 653 
- พ.ร.บ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544